ครีมอนุภาคนาโนจากน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว
ตำรับลดริ้วรอยได้ผลดีและมีความคงตัวสูง เป็นงานวิจัยและพัฒนาของนักวิจัย คณะเภสัชมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงถึงศักยภาพนักวิจัยไทย จนได้รับรางวัลนานาชาติจากสมาพันธ์นักเคมีเครื่องสำอางนานาชาติ “ฟักข้าว” ยังไปได้อีกไกลในระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงาม
แนะส่งเสริมการปลูกฟักข้าวสู่ระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
รศ.ดร.ภก.สุรพล นธการกิจกุล หัวหน้าทีมวิจัย เผยผลงานวิจัยเรื่อง การพัฒนาเครื่องสำอางลดเลือนริ้วรอยจากน้ำมันของเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวใน
อนุภาคไขมันระดับนาโน (Development of Anti-wrinkle Cosmetic from Aril Oil
of Momordica cochinchinesis (Lour.) Spreng in Nanostructured Lipid Carriers) ได้รับรางวัล IFSCC Host Society Award 2011 ซึ่งนับเป็นผลงานของคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้
จากงานประชุมสมาพันธ์นักเคมีเครื่องสำอางนานาชาติ 2011 (IFSCC 2011) เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.54 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมดุสิตธานี
กรุงเทพมหานคร
ซึ่งนับเป็นการประชุมระดับโลกครั้งแรกในประเทศไทยโดยสมาคมนักเคมีเครื่อง
สำอางแห่งประเทศไทย รศ.ดร.ภญ.พรรณวิภา กฤษฏาพงษ์ ได้รับเกียรติเป็นประธานจัดงาน
และเป็นครั้งที่ 21 ของประชุมสมาพันธ์นักเคมีเครื่องสำอางนานาชาติ
โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากสมาพันธ์นักเคมีเครื่องสำอาง นักวิทยาศาสตร์
กลุ่มวิชาชีพในอุตสาหกรรมเคมีเครื่องสำอางและความงามจากประเทศสมาชิกของสมา พันธ์นักเคมีเครื่องสำอางนานาชาติ
(IFSCC) รวม 47 ประเทศ
ซึ่งมีสมาชิกจำนวนกว่า 15,000 คน ผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงผลงานวิจัยและศักยภาพของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางโดย
มุ่งเน้นมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ดังนั้นเครื่องสำอางจากสารธรรมชาติจึงเป็นทางเลือกหนึ่ง
ผลงานวิจัย
เรื่องการ พัฒนาเครื่องสำอางลดเลือนริ้วรอยจากน้ำมันของเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว ในอนุภาคไขมันระดับนาโน
นั้นเป็นการต่อยอดงานวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 5 ปี
ของทีมนักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คือหัวหน้าโครงการ รศ.ดร.ภก. สุรพล นธการกิจกุล
และคณะกล่าวถึงที่มาของการวิจัยว่าฟักข้าวมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Momordica
cochinchinensis (Lour.) Spreng วงศ์ Cucurbitaceae เดิมมีถิ่นกำเนิดประเทศเอเชียเขตร้อน
ในเมืองไทยมีมากในเขตภาคเหนือและภาคกลาง
ซึ่งหมอพื้นบ้านใช้ภูมิปัญญาในการใช้ฟักข้าวเป็นยารักษาโรคและเป็นอาหาร
ทีมวิจัยได้นำเยื่อหุ้มเมล็ดมาสกัดน้ำมัน ทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
และพัฒนาตำรับเครื่องสำอางชะลอความแก่โดยการทดสอบประสิทธิภาพการลดรอยเหี่ยว
ย่นในอาสาสมัคร และมีการเผยแพร่ในการประชุมมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ในปี พ.ศ. 2550 และได้รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่น
รศ.ดร.สุรพล กล่าวย้ำว่า “จากผลการวิจัยครั้งนั้น
สร้างกระแสบูม มีการปลูกฟักข้าวและนำมาแปรรูปเป็นอาหารและเครื่องดื่ม เช่น
น้ำผลไม้ ไอศกรีม ในระดับชุมชน
นอกจากนี้ยังมีการผลิตเป็นสบู่และครีมบำรุงผิวจากฟักข้าว เป็นสินค้าระดับ OTOP
และSME ตามมา
อย่างไรก็ดี
การผลิตเพื่อแปรรูปในระดับอุตสาหกรรมนั้นต้องมีการวางแผนการปลูกที่ดี
ควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ
ขั้นตอนในการแปรรูปจะต้องตรวจสอบความคงตัวและมาตรฐานสารสำคัญในฟักข้าว
นอกจากนี้ต้องมีการประเมินประสิทธิผลตามมาตรฐานสากล จึงจะสามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานส่งออกได้
” ซึ่งในปัจจุบัน
ตลาดเครื่องสำอางลดเลือนริ้วรอยมีการขยายตัวเพิ่มและการแข่งขันสูง
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากธรรมชาติที่มีจำหน่ายในท้องตลาด
หากได้มีการตรวจสอบคุณภาพและประเมินประสิทธิภาพอย่างจริงจัง
มักพบปัญหาเรื่องความคงตัวและการออกฤทธิ์ลดลงเมื่อเก็บผลิตภัณฑ์ไว้นาน
จากปัญหาดังกล่าว ทีมวิจัยจึงได้สกัดน้ำมันจากเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวมาศึกษาตรวจสอบองค์ประกอบ
ทางเคมีโดยวิธี HPLC พบว่าลายพิมพ์
ตรงกับของสารมาตรฐานไลโคปีนและกลุ่มเบต้าแคโรทีน
ซึ่งสารประกอบกลุ่มนี้สลายตัวได้ง่ายโดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสภาวะที่มีแสงและ
อุณหภูมิสูง ดังนั้นจึงหาวิธีเพิ่มความคงตัวโดยการเตรียมน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวให้
อยู่ในรูปอนุภาคไขมันระดับนาโนและนำไปใส่ในตำรับครีม
ซึ่งอนุภาคไขมันระดับนาโนที่เก็บกักน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวสามารถ
เตรียมด้วยเทคนิคการปั่นผสมที่ความดันสูง พบว่าที่ความดัน 1,000 บาร์ จำนวน 5 รอบ ได้อนุภาคที่มีลักษณะทางกายภาพที่ดีไม่เกิดการแยกชั้น
เมื่อใช้เครื่องวัดขนาดอนุภาค (Photon correlation spectroscopy) วัดพบว่า มีขนาดอนุภาคเฉลี่ยไม่เกิน 200 นาโนเมตร
การกระจายตัวอนุภาคใกล้เคียง โดยรูปร่างของอนุภาคมีลักษณะกลมมีความคงตัวดี
จากนั้นนำตำรับครีมพื้นผสมน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวในอนุภาคไขมันระดับนา โน
มาทดสอบความคงสภาพของตำรับที่สภาวะเร่งด้วยอุณหภูมิแบบร้อนสลับเย็น
และที่สภาวะอุณหภูมิต่างๆ 4?C, 25?C และ 45?C นาน 90 วัน พบว่า
มีลักษณะทางกายภาพที่ดี ไม่เกิดการแยกชั้น และผลของอุณหภูมิและแสง
ต่อความคงตัวของเบต้าแคโรทีนในน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว
พบว่าในทุกสภาวะของตำรับครีมพื้นผสมน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวในอนุภาค
ไขมันระดับนาโนมีเปอร์เซ็นต์ที่เหลืออยู่ของเบต้าแคโรทีนสูง
ในการศึกษาประสิทธิภาพการลดริ้วรอย โดยใช้เครื่องมือ Skin Visiometer พบว่าหลังใช้ผลิตภัณฑ์วันละ 2 ครั้ง อย่างต่อเนื่องนาน
8 สัปดาห์ บริเวณที่ใช้ครีมผสมน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวในอนุภาคไขมันระดับนาโน
สามารถลดริ้วรอยของผิวหนังได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนใช้ครีม
และยังพบว่าบริเวณผิวหนังที่ใช้ครีมพื้นผสมน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวในอนุภาคนาโน
มีประสิทธิภาพลดริ้วรอยได้ดีกว่าบริเวณที่ใช้ครีมผสมน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
งานวิจัยนี้เป็นการพัฒนาครีมผสมน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวในอนุภาคนาโนให้
มีประสิทธิภาพลดริ้วรอยและมีความคงตัวดีขึ้น
เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจแก่พืชท้องถิ่นของประเทศไทยและประชาคมอา
เซียน จึงได้รับรางวัลจากสมาพันธ์นักเคมีเครื่องสำอางนานาชาติ (IFSCC)ส่งท้าย ปี 2554 ที่ผ่านมา
ที่มา : เชียงใหม่นิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น